พันธุ์ลิงที่มีอยู่ในประเทศไทยของเรานะครับ
(ไม่นับรวมชะนี ค่าง และลิงลม นะครับ ) มี 5 ชนิด ได้แก่
1. ลิงกัง
|
|
ชื่อไทย
ลิงกัง
ชื่อวิทยาศาสตร์
Macaca
nemestrina
ชั้น
Mammalia
อันดับ
Primates
วงศ์
Cercopithecidae
วงศ์ย่อย
Cercopithecinae
สกุล
Macaca
ลิงกังนั้นเป็นลิงที่คนไทยเราคุ้นเคยกันมากครับ
อย่างทางภาคใต้ของไทยเรานั้นนิยมเลี้ยงลิงกังเพื่อใช้ในการขึ้นมะพร้าวนะครับ
เพราะว่าลิงกังนั้นเลี้ยงให้เชื่องง่าย งั้นเรามาทำความรู้จักลิงชนิดนี้กันเลยนะในธรรมชาติ
ลิงกังมีอายุขัยประมาณ 26 ปี
ในแหล่งเพาะเลี้ยงเคยพบลิงกังที่อยู่ได้ถึงเกือบ 35 ปี
·
ศัตรูตามธรรมชาติของลิงกัง
คือเสือและงู
แต่ศัตรูตัวร้ายที่สุดก็หนีไม่พ้นคน ลิงกังจำนวนมากถูกล่าเพื่อเอาเป็นอาหาร
ทำยาจีน และเพื่อการแพทย์ ไอยูซีเอ็นประเมินสถานภาพไว้ว่าเสี่ยงสูญพันธุ์
ไทยจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
·
ลักษณะของลิงกัง
ลิงกังมีขนสีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลอมเทา
บริเวณท้องสีขาว ขนบริเวณกระหม่อมสีดำหรือน้ำตาลเข้ม
หางสั้นประมาณ 13-24 เซนติเมตรและมีขนสั้น ขายาว ตัวผู้ใหญ่กว่าตัวเมียราวสองเท่า
ความยาวหัว-ลำตัวประมาณ
49-56 เซนติเมตร น้ำหนักเฉลี่ย 6.2-14.5 กิโลกรัม
ส่วนตัวเมียความยาวหัว-ลำตัวประมาณ
46-56 หนักประมาณ 4.7-10.9 กิโลกรัม
ตัวผู้จะมีเขี้ยวแหลมยาวประมาณ
12 มม. ส่วนตัวเมียก็มีเขี้ยวแต่สั้นกว่ามากเพียง 7.3 มม.
·
ลักษณะนิลัย
ลิงกังจัดเป็นลิงที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ส่งเสียงมากนัก นอกจากเวลาต่อสู้กันเท่านั้น นอกจากการสื่อสารด้วยเสียงแล้ว ลิงกังยังมีภาษาท่าทางและสื่อสารผ่านสีหน้าได้ด้วย
·
ถิ่นที่อยู่อาศัย
ลิงกังอาศัยอยู่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบในหลายประเทศ ตั้งแต่ตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ทางใต้ของจีน อินโดนีเซีย (บอร์เนียว กาลิมันตัน สุมาตรา) ตะวันออกของบังกลาเทศ พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย (แผ่นดินใหญ่) พบในพื้นที่ตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนสูงถึง 2,000 เมตร อาศัยในป่าทึบ ส่วนใหญ่เป็นป่าฝนและป่าบึง
. ลักษณะการอยู่อาศัยของลิงกัง
ฝูงลิงกังประกอบด้วยตัวผู้หลายตัวและตัวเมียหลายตัว
สมาชิกตัวเมียเป็นกลุ่มครอบครัวเดียวกัน ฝูงหนึ่งมีสมาชิกประมาณ 15-40 ตัว เป็นตัวผู้ราว 5-6 ตัว
แต่ละตัวเป็นตัวผู้ที่แยกออกมาจากฝูงที่ตัวเองเกิด
เมื่อมีตัวผู้ตัวใหม่เข้ามาสู่ฝูง จะมีลำดับชั้นต่ำสุด หลังจากนั้นจึงค่อยต่อสู้เพื่อเลื่อนอันดับตัวเองให้สูงขึ้น
ส่วนตัวเมียก็มีลำดับชั้นเช่นกัน
ตัวเมียที่อันดับสูงสุดมักมีหลายตัวและเป็นพี่น้องกันที่รักใคร่ปรองดองกัน
แม้กลุ่มตัวเมียจะมีอำนาจด้อยกว่าตัวผู้
แต่ก็รวมตัวกันเหนียวแน่นกว่าและอาจร่วมกัน ต่อสู้กับตัวผู้ที่อันดับต่ำในการแย่งชิงอาหารได้
· การหากิน
ลิงกังหากินเวลากลางวัน หากินบนพื้นดินมากกว่าบนต้นไม้ พื้นที่หากินกว้าง
ตั้งแต่ 0.6-8.28 ตารางกิโลเมตร
และมักย้ายพื้นที่หากินอยู่เสมอ เดินทางวันละประมาณ 800-3,000 เมตร พื้นที่ของแต่ละฝูงมักซ้อนเหลื่อมกัน
แต่ลิงกังแต่ละฝูงก็ไม่ค่อยจะมีเรื่องวิวาทในเรื่องเขตแดนมากนัก
อาหารหลักคือผลไม้ นอกจากผลไม้ยังมีแมลง เมล็ดพืช ใบไม้ เห็ด นก
ตัวอ่อนปลวก ปู เป็นต้น ขณะออกหากินจะแบ่งเป็นกลุ่มย่อย ๆ กลุ่มละ 2-6 ตัว บ่อยครั้งที่เข้ามาเก็บกินผลไม้ในสวนของเกษตรกร
·
การผสมพันธุ์
ลิงกังผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี แต่ส่วนใหญ่จะผสมพันธุ์ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม
ตัวเมียมีคาบการติดสัดประมาณ 30-35 วัน ตั้งท้องนาน 162-182 วัน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกลิงแรกเกิดมีสีดำ เมื่อพ้นสามเดือนสีขนจึงค่อยจางลงเป็นสีน้ำตาลอ่อน แม่ลิงจะเลี้ยงลูกเป็นเวลา 8-12 เดือน
ตัวผู้เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 4.5 ปี ส่วนตัวเมียจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 3 ปี เมื่อตัวเมียติดสัด
ต่อมแก้มก้นและอวัยวะเพศจะบวมแดงอย่างเห็นได้ชัดเจน และ ลิงกังเปลี่ยนคู่ได้หลายครั้งตลอดอายุขัย
·
อันตรายที่เกิดขึ้นกับลูกลิง
คือ ในช่วงที่ลูกอายุเกิน 5 สัปดาห์ไปแล้ว ลูกลิงจะเริ่มซุกซนและอยากรู้อยากสำรวจโลกรอบด้าน ซึ่งอาจทำให้ต้องห่างจากอกแม่ หากแม่ลิงเป็นลิงที่มีลำดับชั้นต่ำ
ช่วงนี้ลูกลิงอาจถูกลิงที่มีอันดับสูงกว่าแย่งไปได้ และหากแม่ลิงแย่งกลับมาไม่ได้ ลูกลิงก็มักต้องอดตาย
2. ลิงเสน
ชื่อไทย
ลิงเสน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Macaca arctoides
อันดับ Primates
วงศ์ Cercopithecidae
ลิงเสนนะครับเป็นลิงที่สามารถพบได้ในทุกภาคของประเทศไทยของเรานะครับ
ในปัจจุบันสำหรับในประเทศไทยมีสถานะในธรรมชาติที่ลดลงเป็นจำนวนมาก จนเหลือเพียงไม่กี่ฝูงเท่านั้นเช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง,อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง,
อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยงอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เป็นต้น
มีสถานะทางกฎหมายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์
อันดับ Primates
วงศ์ Cercopithecidae
ลิงเสนนะครับเป็นลิงที่สามารถพบได้ในทุกภาคของประเทศไทยของเรานะครับ
ในปัจจุบันสำหรับในประเทศไทยมีสถานะในธรรมชาติที่ลดลงเป็นจำนวนมาก จนเหลือเพียงไม่กี่ฝูงเท่านั้นเช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง,อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง,
อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยงอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เป็นต้น
มีสถานะทางกฎหมายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์
·
ลักษณะของลิงเสน
บางครั้งเรียกว่า ลิงหมี เป็นลิงที่มีลำตัวยาว หลังสั้น ขนยาวสีน้ำตาล หน้ากลม หางสั้น ลูกอ่อนมีสีขาวและสีจะเข้ม เมื่อมีอายุมากขึ้น ใบหน้าเป็นสีชมพู หรือแดงเข้ม มีขนเล็กน้อย
ลิงตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย มีน้ำหนัก 9.7-10.2 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียหนัก 7.5-9.1 กิโลกรัม ลิงเสนตัวผู้จะมีเขี้ยวยาวและอาศัยรวมกันเป็นกลุ่ม มีถุงเก็บอาหารใต้คาง หางสั้นมากจนดูเหมือนกับไม่มีหาง ก้นแดง และมีกลิ่นตัวที่เหม็นเขียว
·
ถิ่นอาศัย และอาหาร
มีการแพร่กระจายพันธุ์ที่ค่อนข้างกว้าง
โดยพบตั้งแต่ประเทศอินเดีย , พม่า , ไทย ,คาบสมุทรมลายู, เกาะสุมาตรา , เกาะบอร์เนียว,
เกาะลูซอน และเกาะมินดาเนา ของฟิลิปปินส์ ,ลาว, กัมพูชา
และเวียดนาม ทำให้มีชนิดย่อยมากถึง 10 ชนิด
มักพบอาศัยตามป่าริมลำน้ำและชายฝั่งทะเลทางภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงใต้
และป่าริมล้าน้้าทางภาคตะวันตก ทั้งป่าสมบูรณ์และป่ารุ่น นอกจากนี้ยังพบชุกชุมในป่าชายเลนและบนภูเขาหินปูนกินอาหารจ้าพวกผลไม้, เมล็ดพืช และแมลงขนาดเล็ก เวลากินอาหารมักชอบเก็บไว้ข้าง
โดยพบตั้งแต่ประเทศอินเดีย , พม่า , ไทย ,คาบสมุทรมลายู, เกาะสุมาตรา , เกาะบอร์เนียว,
เกาะลูซอน และเกาะมินดาเนา ของฟิลิปปินส์ ,ลาว, กัมพูชา
และเวียดนาม ทำให้มีชนิดย่อยมากถึง 10 ชนิด
มักพบอาศัยตามป่าริมลำน้ำและชายฝั่งทะเลทางภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงใต้
และป่าริมล้าน้้าทางภาคตะวันตก ทั้งป่าสมบูรณ์และป่ารุ่น นอกจากนี้ยังพบชุกชุมในป่าชายเลนและบนภูเขาหินปูนกินอาหารจ้าพวกผลไม้, เมล็ดพืช และแมลงขนาดเล็ก เวลากินอาหารมักชอบเก็บไว้ข้าง
แก้มแล้วค่อย ๆ
เอามือดันอาหารที่เก็บไว้ออกมากินทีละน้อย
·
พฤติกรรม และการขยายพันธุ์
ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่
หากินตอนกลางวัน เป็นลิงที่หากินตามพื้นดินมากกว่าบนต้นไม้
ชอบอยู่ป่าทึบมากกว่าป่าโปร่ง และพบทั้งป่าสูงและป่าต่ำ
เวลาตกใจวิ่งจะขึ้นต้นไม้อย่างรวดเร็ว ลิงเสนเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุ 3-4 ปี ระยะตั้งท้องนาน 146 วัน
ออกลูกครั้งละ 1 ตัว และมีอายุยืนกว่า 20 ปี
ชื่อไทย
ลิงวอก
ชื่อสามัญ
Rhesus Macaque
ชื่อวิทยาศาสตร์
Macaca
mulatta
อันดับ
Primates
วงศ์
Cercopithecidae
ลิงวอกในประเทศไทยของเรานั้นปัจจุบันนั้นมีเหลืออยู่น้อยมากนะครับ ในปัจจุบันนั้นลิงวอกก็จัด เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
·
ลักษณะของลิงวอก
เป็นลิงที่มีร่างกายอ้วนสั้น
บริเวณหลัง หัวไหล่ และตะโพกมีสี
น้ำตาลปนเทา ส่วนบริเวณใต้ท้องและสีข้างมีสีอ่อนกว่า หางยาว ประมาณครึ่งหนึ่งของความยาวลำตัว ขนหางค่อนข้างยาวและฟู มีการผลัดขนประมาณช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมของทุกปี โดย จะเริ่มที่บริเวณปากก่อน หลังจากนั้นจึงจะเริ่มผลัดขนที่หลัง ตัวเมีย อาจมีขนสีแดงในฤดูผสมพันธุ์ ขนที่หัวของลิงวอกจะชี้ตรงไปด้านหลัง ลิงตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย มีความยาวลำตัวและหัว 47-58.5 เซนติเมตร น้ำหนัก 3-6 กิโลกรัม ความยาวหาง 20.5-28 เซนติเมตร
·
พฤติกรรมและการสืบพันธุ์
พฤติกรรมชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่
ตั้งแต่ 50 ตัวขึ้นไป
สมาชิกส่วนใหญ่ในฝูงประกอบไปด้วยลิงตัวเมียและลูก ๆ
ตัวเมียในฝูงจะมีบาทบาทสำคัญมากกว่าตัวผู้
แต่ลิงตัวผู้จะมีบทบาทในการปกป้องฝูงลิงวอกเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุ 3-4 ปี
ระยะตั้งท้องนาน 5-7 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ลิงตัวเมียจะอยู่กับฝูงไปจนตาย แต่ตัวผู้เมื่อโตขึ้น มักจะถูกขับไล่ให้ออกจากฝูง จากการศึกษาพบว่า ลิงวอกมีความสัมพันธ์กับชุมชนมนุษย์มาเป็นเวลานาน แต่การที่ลิงวอกมักเข้ามาอาศัยและใช้ประโยชน์ในพื้นที่เกษตรกรรม จึงทำให้ไม่กลัวคน ในบางครั้งจึงถูกจับฆ่าเพื่อนำมาทำเป็นอาหารและฆ่าเพื่อลดความรำคาญ
·
ถิ่นที่อยู่อาศัย
มีการกระจายพันธุ์ตั้งแต่ อัฟกานิสถาน, ภาคเหนือของอินเดีย, เนปาล, พม่า, ภาคใต้ของจีน, ลาว, เวียดนาม และภาคตะวันตกของไทย โดยในประเทศ ปัจจุบันเชื่อว่า
เหลืออยู่เพียงฝูงสุดท้ายแล้วที่ วัดถ้ำผาหมากฮ่อ ในพื้นที่อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
·
อาหาร
ลิงวอกกินผัก ผลไม้
ใบไม้อ่อน แมลงต่างๆ รวมทั้งสัตว์เล็กๆ เป็นอาหาร
4. ลิงไอ้เงี้ย
ชื่อวิทยาศาสตร์
Macaca
assamensis
สำหรับลิงชนิดนี้นะครับมีลักษระคล้ายกับลิงวอกมากนะครับเลยเรียกกันว่าลิงวอกภูเขานะครับ
ในปัจจุบันนะครับลิงไอเงี้ยนั้นยังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
·
ลักษณะทั่วไป
ลักษณะคล้ายลิงวอกแต่ขนข้างใบหน้า
เป็นลิงร่างใหญ่ บึกบึน หนักประมาณ 5-10 กิโลกรัม ตัวยาวประมาณ 51-63 เซนติเมตร
รูปร่างทั่วไปคล้ายลิงวอก ขนสีน้ำตาลอมเหลือง หน้าอก ท้อง ท้องแขนและขาสีขาว
ก้นและหางสีเทา หัวโต ใบหน้ายื่นมากกว่าลิงขนสั้นชนิดอื่น
ขนบริเวณด้านข้างใบหน้าชี้ไปทางข้างหลัง ขนกลางกระหม่อมแสกกลาง หางค่อนข้างสั้น ประมาณ 20-38 เซนติเมตร
·
อุปนิสัยและอาหาร
มักพบตามภูเขา และที่สูงตั้งแต่ 500 ถึง 3,500 เมตร อาศัยอยู่บนเรือนยอดไม้สูงประมาณ10 -50 เมตร จากพื้นดิน สมาชิกในฝูงมีประมาณ 10 - 50 ตัว
โดยจะมีสมาชิกบางตัวทำหน้าที่เฝ้ายามบนต้นไม้สูงที่สุดในบริเวณ
เมื่อมีอันตรายจะส่งเสียงร้องเตือนพร้อมกับเคลื่อนไหวเพื่อเตรียม
หลบหนี ร้องเสียงดัง "ปิ้ว" หากินตอนกลางวัน อาศัยกันเป็นฝูง ฝูงหนึ่งมีตัวผู้และตัวเมียเพศละหลายตัว รวมกันอาจมากถึง 50 ตัว ชอบหากินบนต้นไม้ และมักอยู่ที่ระดับความสูงเกิน 10 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับหากินของลิงกังและลิงแสม กินผลไม้ ใบไม้ โดยเฉพาะใบอ่อน และสัตว์ขนาดเล็กเป็นอาหาร
·
พฤติกรรม - การขยายพันธุ์
เป็นลิงที่มีนิสัยดุร้าย
กระดิกหางได้เหมือนสุนัข ชอบอาศัยอยู่บนภูเขา
ลิงวอกภูเขาเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุ 3-4 ปี ระยะตั้งท้องนาน 5-6 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว
5.ลิงแสม
ชื่อไทย
ลิงแสม
ชื่อสามัญ Crab-eating macaque ชื่อวิทศาสตร์ Macaca fascicularis Raffles, 1821 ลิงแสมนะครับส่วนใหญ่นั้นจะพบบริเวณป่าชายเลนะครับ แต่ที่คนไทยเราคุ้นเคยกับลิงชนิดนี้ก็คงไม่พ้นที่นี้แน่นอนครับ นั้นก็คือ ศาลพระกาฬ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี และ ลิงแสมเป็นสัตว์ที่ฝึกได้และสามารถเรียนรู้ได้ง่ายและรวดเร็ว ถ้านำมาฝึกตั้งแต่ยังเล็ก
·
ลักษณะ
ลิงแสมมีหางยาวใกล้เคียงกับความยาวจากหัวถึงลำตัว
ขนมี 2 สี คือ สีเทาน้ำตาลและสีแดง
โดยสีขนจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ ฤดูกาล และถิ่นที่อยู่อาศัย ลิงแสมในป่าจะมีสีเข้มกว่าลิงแสมที่อยู่บริเวณป่าชายเลย ซึ่งมีเกลือในอากาศและสัมผัสกับแสงแดดมากกว่า ลิงชนิดนี้มีหางกลม ขนบริเวณหัวสั้นตั้งชี้ไปด้านหลัง ลิงอายุน้อยหัวจะมีขนเป็นหงอน และจะยืดยาวออกเมื่อมีอายุมากขึ้น
·
ถิ่นที่อยู่อาศัย
ประเทศไทย อินโดนีเซีย พม่า มลายู เกาะสุมาตรา เกาะซูลอน
และเกาะมินดาเนา ของฟิลิปปินส์ บอร์เนียว ลาว กัมพูชา และเวียดนาม
·
นิเวศวิทยาและพฤติกรรม
เป็นลิงอีกชนิดหนึ่งที่พบได้แทบทุกภูมิประเทศ
ทั้งในป่าชายเลนใกล้ทะเล โดยลิงฝูงที่อาศัยในที่นี่จะว่ายน้ำและดำน้ำเก่ง
เคยมีรายงานว่าสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 50
เมตร บางครั้งก็พบอาศัยอยู่ในป่าดิบชื้นและพื้นที่สูงประมาณ
2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล หรือพื้นที่เกษตรกรรมด้วยซึ่งมันมักจะทำลายผลิตผลทางการเกษตร
ลิงแสมพยายามจะปรับตัวให้สามารถอยู่ในพื้นที่บริเวณขอบนอกขอป่า
มากกว่าอยู่ในป่าลึก และสามารถปรับตัวในเข้ากับมนุษย์ได้ในบางโอกาส ดั่งที่มักพบเห็นทั่วไปตามเมืองใหญ่ อาทิ ศาลพรกาฬ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี หรือ ศาลเจ้าแม่เขาสามมุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นต้น ซึ่งมักจะอยู่เป็นฝูงใหญ่ อาจมีสมาชิกในฝูงได้ถึง 200 ตัว โตเต็มที่เมื่อมีอายุได้ราว 3-4 ปี ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกที่มีอายุน้อยจะเกาะติดแม่เสมอ |