พันธุ์ลิง
ลิงกระรอก(ลิงกระรอกปากดำ)
Squirrel Monkey(Common Squirrel Monkey)
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Saimiri sciurea
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะทั่วไป
เป็นลิงขนาดเล็กขนาดพอ ๆ กับตัวทามาริน (TAMARINS) ขนาดของลำตัววัดจากหัวจรดโคนหางยาวประมาณ 12 นิ้ว หรือ 1 ฟุต หางมีความยาวมากกว่าลำตัว หางยาวประมาณ 16 นิ้ว หนังบริเวณรอบจมูกและปากเป็นวงสีดำ ใบหน้าเป็นสีชมพูหรือสีเนื้อ มองเผิน ๆ เหมือนกับสวมหน้ากากอยู่ ดวงตาสีน้ำตาลดำ ขนตามลำตัวยาวไม่มากนัก มีสีน้ำตาลแซมด้วยสีเทาเหมือนสีของกระรอก บริเวณศีรษะจะมีขนสีดำขึ้นแซมอยู่ทั่วไป ขนบริเวณใต้อกลงไปถึงใต้หางจะมีสีเหลืองนวล ส่วนขนบริเวณแขนและขามีสีเหลืองส้ม แลดูเด่นสะดุดตามาก ปลายหางมีขนสีดำ ลักษณะหางคล้ายหางของกระรอก มีนิ้วมือ นิ้วเท้าข้างละ 5 นิ้ว ลักษณะคล้ายกับนิ้วมือคน แต่จะยาวกว่า เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลกรัม นับว่าเป็นลิงที่ตัวเล็กและน้ำหนักเบามาก ความแตกต่างระหว่างตัวผู้และตัวเมียนอกเหนือจากการสังเกตที่อวัยวะเพศแล้ว ยังสามารถสังเกตได้จากขนาดของมัน คือตัวผู้จะโตกว่า และมีหัวที่ใหญ่กว่าของตัวเมีย และเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ตัวผู้จะมีสีสันที่สดใสกว่าตัวเมีย
ถิ่นอาศัย, อาหาร
พบในทวีปอเมริกาใต้
กินผลไม้ ดอกไม้บางชนิด ลูกนก จิ้งจก ไข่นก กบ และแมลงต่าง ๆ
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง โดยฝูงหนึ่ง ๆ จะอยู่รวมกันประมาณ 20 - 30 ตัว ชอบกระโดดโลดเต้นไปมา เวลากระโดดมันจะกระโดดไปพร้อม ๆกันทั้ง 4 ขา เหมือนกับการกระโดดลอยตัวของกระรอก ดังนั้นเวลามองจากที่ไกล ๆ จะเหมือนกับกระรอกมาก การเคลื่อนที่โดยมากจะใช้วิธีกระโดดจากยอดไม้หนึ่งไปยังอีกยอดหนึ่ง ไม่ค่อยชอบเดินบนพื้นดิน เวลานอน ชอบนอนบนต้นไม้สูง ๆ นอนบนคาคบไม้ จะไม่ลงมานอนบนพื้นดินหรือในซอกโพรง มีนิสัยไม่ดุร้าย รักความสงบไม่ก้าวร้าว จึงไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ทั้งกับฝูงของตน หรือกับฝูงอื่น สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ค่อนข้างดี จึงมักไม่ค่อยมีปัญหาในการย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย
ลิงกระรอกผสมพันธุ์ได้ตลอดปี ตั้งท้องนาน 6 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว อายุยืนราว 20 ปี
สถานภาพปัจจุบัน
สถานที่ชม
สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา
ลิงกัง
Pig-tailed Macaque
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Macaca nemestrina
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะทั่วไป
เป็นลิงที่มีรูปร่างอ้วนสั้น ขนสั้นสีเทาหรือสีน้ำตาล หน้าค่อนข้างยาว ขนบนหัวสั้นมีสีเทาหรือ สีน้ำตาล และขึ้นวนเป็นก้นหอย ขนตรงส่วนใต้ท้องมีสีจางจนเกือบขาว หางค่อนข้างสั้น ตัวเมียมีขนาดเล็กกว่า และมีขนปรกหน้าผากน้อยกว่าลิงตัวผู้
ถิ่นอาศัย, อาหาร
ลิงกังพบในอัสสัม พม่า ไทย มาเลเซีย สุมาตรา บอร์เนียว สำหรับประเทศไทยพบทั่วไปแทบทุกภาค พบมากตั้งแต่ราชบุรี เพชรบุรี จนถึงภาคใต้
ลิงกังชอบกินผลไม้ เมล็ดพืช และแมลงเป็นอาหาร เวลากินอาหารมักชอบเก็บไว้ข้างแก้มแล้วค่อยๆ เอามือดันอาหารที่เก็บไว้ออกมากินทีละน้อย
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
ชอบอาศัยอยู่ตามป่าทึบบริเวณเชิงเขา ชอบท่องเที่ยวไปเรื่อย ไม่ค่อยอยู่เป็นที่ บางตัวออกหากินตัวเดียว ไม่รวมฝูง ชอบลงมาอยู่ตามพื้นดินมากกว่าอยู่บนต้นไม้ แต่เวลานอนขึ้นไปนอนบนต้นไม้ ชอบส่งเสียงร้องและมักร้องรับกันทั้งฝูง
ลิงกังเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุ 3-4 ปี ผสมพันธุ์ทุกฤดู ระยะตั้งท้องประมาณ 5-7 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว และมีอายุยืนราว 25 ปี ตัวผู้หรือแต่ละตัวอาจผสมพันธุ์กับตัวอื่นได้หลายตัว และไม่อยู่เป็นคู่แน่นอน
สถานภาพปัจจุบัน
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
สถานที่ชม
สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา
ลิงชิมแปนซี
Chimpanzee
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Pan troglodytes
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะทั่วไป
เป็นลิงที่ไม่มีหาง คล้ายคนมาก แขนและขามีความยาวพอ ๆ กัน สมองเจริญมากทำให้เฉลียวฉลาดกว่าอุรังอุตังและกอริลล่า มีเชาว์ปัญญาเกือบเท่ามนุษย์ สามารถเดินตรงได้แต่นิ้วเท้าจะหันไปข้างนอก เวลาเดินตัวจะเอนไปข้างหน้า แขนตรง และวางข้อมือลงบนพื้น นานๆ ครั้งจะเดิน 2 เท้าแบบมนุษย์ ซึ่งในการเดินแบบนี้ ลิงชิมแปนซีจะเอามือไว้ข้างหลังเพื่อช่วยในการทรงตัว หรือชูมือทั้ง 2 ข้างขึ้นสูง ตัวผู้สูงราว 5 ฟุต ส่วนตัวเมียสูงราว 4 ฟุต เวลากินน้ำจะใช้ปากก้มลงดื่มโดยตรง ไม่ใช้มือจุ่มน้ำขึ้นมาเหมือนชะนี ว่ายน้ำไม่เป็น มีความจำดีมาก มีอารมณ์ความรู้สึกเช่นเดียวกับคน
ถิ่นอาศัย, อาหาร
พบในทวีปแอฟริกา มีอยู่ 3 พันธุ์ คือชนิดหน้าขาวหรือน้ำตาลจาง ชนิดหน้าดำหรือน้ำตาลไหม้และชนิดแคระซึ่งเป็นชนิดที่หายากกว่าชนิดอื่น ลิงชิมแปนซีอยู่กระจายกันตั้งแต่เซราเลโอนไปตามแนวชายฝั่งตะวันตกของทวีปข้ามไปถึงทะเลสาบเกรท (Great Lake) ทางตะวันออกของคองโก
กินผลไม้ ใบไม้ ผัก เป็นอาหาร กินเนื้อได้บ้างเล็กน้อย
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง พักอาศัยอยู่บนต้นไม้ เคลื่อนไหวไปมาได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวเวลาอยู่บนต้นไม้ ในฝูง ๆ หนึ่งจะมีตัวผู้เป็นพ่อตัวหนึ่ง ตัวเมียอาจมีตัวเดียวหรือหลายตัวรวมทั้งพวกลูก ๆ มันสร้าง "รังนอน" ของมันไว้บนต้นไม้ โดยเฉพาะบนคาคบไม้ซึ่งมันจะทำพื้นของรังให้เรียบ ด้านบนมีกิ่งไม้ใบไม้ปกคลุมบังอยู่ มันจะใช้ "รัง" นี้เป็นที่อาศัยพักผ่อนหลับนอนในตอนกลางคืน ชอบตื่นแต่เช้าตรู่ ฉลาดมาก สามารถเรียนรู้และเลียนแบบพฤติกรรมของคนได้เกือบทุกอย่าง เช่นสวมเสื้อเองได้ กินอาหารและดื่มน้ำบนโต๊ะได้ เป็นต้น
ชิมแปนซีเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุ 7-9 ปี เป็นสัดทุก ๆ 33-38 วัน ระยะเวลาสำหรับการผสมพันธุ์นาน 3 วัน ตั้งท้องนานประมาณ 230 วัน ลูกจะอยู่กับแม่นาน 1-2 ปี และมีอายุยืนประมาณ 40 ปี
สถานภาพปัจจุบัน
สถานที่ชม
สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา
ลิงบาบูน
Chacma Baboon
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Papio ursinus
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะทั่วไป
รูปร่างค่อนข้างใหญ่ ขนตามตัวสีน้ำตาล ขนค่อนข้างหยาบ หน้าดำ หูมีขนน้อย แต่ตัวผู้ขนตรงรอบคอและไหล่ยาว และมีขนปรกที่ปาก ร้องเสียงดัง วิ่งเหมือนม้าควบ ว่ายน้ำเก่ง
ถิ่นอาศัย, อาหาร
พบในแอฟริกาใต้
กินสัตว์เล็ก ๆ ซากสัตว์และแมลงต่าง ๆ อีกทั้งผักและ ผลไม้ทุกชนิด
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ฝูงหนึ่งมีจำนวนเป็นร้อยอาจถึง 200-300 ตัว มีหัวหน้าเป็นตัวผู้ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมสังคมของมันให้เป็นระเบียบ ในเวลากลางคืนชอบนอนในถ้ำ ซอกหิน หรือ บนกิ่งไม้ใหญ่ ลิงบาบูนไม่ค่อยพบในป่าทึบ ชอบอยู่ตามเขาที่เป็นหินมีต้นไม้น้อย เนื่องจากว่าลิงบาบูนขึ้นต้นไม้ไม่เก่ง
ลิงบาบูนผสมพันธุ์เป็นคู่ ไม่ปะปนกัน ตั้งท้องประมาณ 6-7 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกจะอยู่กับแม่ตลอดเวลา บางครั้งพ่อจะช่วยดูแลลูก เมื่อลูกยังเล็กจะอยู่ที่อกแม่และดูดนมแม่ เมื่อโตขึ้นมาหน่อยจะเปลี่ยนขึ้นมาเกาะหลังแม่ ลิงบาบูนมีอายุยืนราว 20 ปี
สถานภาพปัจจุบัน
สถานที่ชม
สวนสัตว์นครราชสีมา
ลิงมัวร์
Moor Macaque
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Macaca maura
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะทั่วไป
เป็นลิงที่มีรูปร่างใหญ่ แข็งแรง ขนตามลำตัวมีสีเทาอมดำ บริเวณแขนและขา และด้านท้ายของตะโพกขนจะมีสีอ่อนกว่า โดยทั่วไปจะเป็นสีเทา เมื่อยืนอยู่กับพื้นจะยืนทั้งสี่ขา มีความสูงถึงช่วงไหล่ประมาณ 40 เซนติเมตร ความยาวของลำตัวตั้งแต่หัวถึงโคนหางประมาณ 65 เซนติเมตร น้ำหนักตัว 18 - 32 กิโลกรัม หัวมีขนาดใหญ่ คิ้วจะเป็นสันยื่นออกมาเห็นได้ชัด มือและเท้าแบน เวลาใช้มือยันพื้นนิ้วหัวแม่มือจะยื่นเข้าหาลำตัว เล็บมือและเล็บเท้าแบน ตรงก้นมีแผ่นหนังซึ่งปราศจากขน ซึ่งเรียกว่า “แผ่นรองก้น” มี 2แผ่นและเป็นสีชมพู เป็นลิงหางสั้น ยาวแค่ประมาณ 1.5 นิ้ว ส่วนใหญ่หางจะพับ ถ้าไม่สังเกตจะมองไม่เห็น
ถิ่นอาศัย, อาหาร
เกาะซีลีบีส ประเทศอินโดนีเซีย
อาหารของลิงมัวร์ได้แก่ ใบไม้ ผลไม้ หน่ออ่อนของต้นไม้ หมูป่า กวาง แมลง รวมทั้งสัตว์เล็ก
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง มีนิสัยดุร้าย ชอบเดินหากินบนพื้นดินมากกว่าขึ้นต้นไม้ จะหลบขึ้นต้นไม้ก็ต่อเมื่อหลบหนีศัตรู หรือนอนพักผ่อน บางครั้งฝูงลิงมัวร์จะช่วยกันล่าสัตว์อื่นเป็นอาหาร เช่น หมูป่า กวาง เป็นต้น
ลิงมัวร์พร้อมที่จะผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุประมาณ 5 ปี ตัวเมียตั้งท้องนานประมาณ 6 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกจะเกาะอยู่ที่อกของแม่เพื่อดูดนม อายุประมาณ 10 เดือนจึงหย่านม และมีอายุยืนราว 30 ปี
สถานภาพปัจจุบัน
สถานที่ชม
สวนสัตว์ดุสิต
ลิงมาร์โมเส็ทธรรมดา
Common Marmoset
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Collithrix jacchus
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะทั่วไป
มีสีขาวบริเวณด้านข้างของหัว ลำตัวจะมีขนสั้นสีเทาและลายสีเทาเข้ม หางมีสีเทาจางสลับเทาเข้ม ความยาวลำตัวประมาณ 20–25 เซนติเมตร หางยาว 29–35 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 400 กรัม
ถิ่นอาศัย, อาหาร
มีถิ่นอาศัยอยู่ป่าเขตร้อนทางภาคตะวันออกของบราซิล
กินผลไม้ แมลง ไข่นก รวมทั้งนกขนาดเล็ก
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
อาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ๆ ละประมาณ 3–8 ตัว จะวิ่งและกระโดดไปมาบนต้นไม้ สามารถกระโดดจากกิ่งไม้กิ่งหนึ่งไปยังอีกกิ่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลมากนัก ตอนกลางคืนจะซ่อนตัวในโพรงไม้หรือพุ่มไม้
ลิงมาโมเส็ทธรรมดามีระยะตั้งท้องนาน 142-150 วัน ออกลูกครั้งละ 1-3 ตัว
สถานภาพปัจจุบัน
สถานที่ชม
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา
ลิงมาร์โมเส็ทจีโอฟรอย สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
Geoffoy’s Marmoset
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Collithrix geoffroyi
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะทั่วไป
ลิงมาร์โมเส็ทแต่ละชนิดจะมีลักษณะเฉพาะของเครา แผงคอ และหนวด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้ลิงมาร์โมเส็ทมีความหลากหลายมากที่สุดและมีสีสันมากที่สุด มีความแตกต่างของขนาด น้ำหนักและความยาวของลำตัว ส่วนใบหน้าของลิงมาร์โมเส็ทคล้ายใส่หน้ากากสี ซึ่งมีรูปแบบที่แตกต่างกันเพื่อบ่งบอกชนิดของมัน โดยแต่ละชนิดจะมีขนปกคลุมที่อ่อนนุ่ม
ถิ่นอาศัย, อาหาร
พบอยู่ทางชายผั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้
อาหารส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ เกสรดอกไม้ และแมลงเล็ก ๆ
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
ชอบอยู่รวมกันในกลุ่มครอบครัวราว 4–15 ตัว สังคมของลิงมาร์โมเส็ทจะปกป้องอาณาเขตจากกลุ่มอื่นด้วยการร้อง การแสดงตัว และท่าทาง ไม่ใช่สัตว์ที่ใช้ความรุนแรง และพบน้อยมากที่จะใช้กำลังรุนแรงบุกรุก
ลิงมาร์โมเส็ทโตเต็มที่เมื่อมีอายุราว 2 ปี
สถานภาพปัจจุบัน
สถานที่ชม
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่
ลิงแมนดริล
Mandrill
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Mandrillus sphinx
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะทั่วไป
เป็นลิงที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ตัวผู้มีลักษณะแตกต่างจากตัวเมีย โดยตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่า จมูกมีสีแดง แก้มสีน้ำเงิน บริเวณก้นมีสีแดงและน้ำเงินเช่นเดียวกับใบหน้า ส่วนตัวเมียบริเวณใบหน้าไม่มีสีแดง สีของลิงชนิดนี้จะปรากฏชัดและเข้ม เมื่อลิงแสดงพฤติกรรมการเกี้ยวพาราสี เวลาโกรธ และขณะต่อสู้กัน
ถิ่นอาศัย, อาหาร
อาศัยอยู่ในป่าแถบตะวันตกของทวีปแอฟริกา แถบไนจีเรีย และคาเมรูน
กินพืชและสัตว์เป็นอาหาร ได้แก่ รากไม้ ผลไม้ แมลง งู และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดเล็ก
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงซึ่งอาจมีจำนวนมากถึง 50 ตัว โดยมีจ่าฝูงและตัวนำรองๆลงมา
สถานภาพปัจจุบัน
สถานที่ชม
สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา
ลิงลม(นางอาย)
Slow Loris
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Nycticebus coucang
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะทั่วไป
รูปร่างเล็กขนนุ่มสั้นหนาเป็นปุย มีเส้นสีน้ำตาลเข้มจากหัวไปตลอดแนวสันหลัง หน้าสั้น ตาโตกลม ใบหูเล็กจมอยู่ในขน ไม่มีหาง ไม่มีนิ้วหัวแม่มือ นิ้วเท้าอันที่สองมีเล็บเป็นตะของอโค้ง ทั้งนี้เพื่อจับกิ่งไม้ได้แน่นในขณะมันลุกขึ้นยืนเพื่อจับแมลงกินเป็นอาหาร ป็นสัตว์ที่เคลื่อนไหวช้า แต่แว้งกัดได้รวดเร็ว
ถิ่นอาศัย, อาหาร
พบในไทย อินโดจีน มาเลเซีย สุมาตรา ชวา บอร์เนียว และมินดาเนา
กินแมลง สัตว์เล็ก ๆ ไข่นก และผลไม้
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
หากินบนต้นไม้เฉพาะในเวลากลางคืน และออกหากินตัวเดียว เว้นแต่ตัวที่มีลูกอ่อนจะเอาลูกเกาะติดอกไปด้วย กลางวันจะซ่อนหน้าเพื่อหลบแสงสว่าง โดยใช้ใบไม้บังหรืออยู่ในโพรงไม้
เมื่อมีอายุ 2 ปีจึงผสมพันธุ์ได้ เป็นสัดนาน 5–6 เดือน และมีทุกระยะ 37–45 วัน ตั้งท้องประมาณ 193 วัน ออกลูกปีละ 2 ครั้ง ปกติออกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกอ่อนจะอยู่กับแม่จนตัวเกือบเท่าแม่จึงจะแยกออกไปหากินเอง ซึ่งกินเวลานานราว 6–9 เดือน และมีอายุยืนประมาณ 10 ปี
สถานภาพปัจจุบัน
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
สถานที่ชม
สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา
ลิงวอก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
Rhesus Macaque
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Macaca mulatta
--------------------------------------------------------------------------------
ลักษณะทั่วไป
ลำตัวส่วนหลังสีน้ำตาล ส่วนอื่นเป็นสีน้ำตาลเทา หางสั้นประมาณครึ่งหนึ่งของลำตัว โคนหางค่อนข้างใหญ่และเรียวเล็กลงไปทางปลายหาง แต่หางสั้นกว่าลิงแสม ขนบริเวณสองข้างแก้มม้วนวนเป็นก้นหอย
ถิ่นอาศัย, อาหาร
พนในประเทศไทย พม่า อินเดีย อัสสัม เนปาล อัฟกานิสถาน จีน และอินโดจีน ในประเทศไทยพบทางภาคเหนือ
ลิงวอกกินผัก ผลไม้ ใบไม้อ่อน แมลงต่างๆ รวมทั้งสัตว์เล็กๆ เป็นอาหาร
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
เป็นลิงที่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ มีตัวผู้แก่เป็นจ่าฝูง ชอบอยู่ตามป่าที่มีโขดหิน หรือหน้าผาและเป็นป่าที่ค่อนข้างแห้งแล้ง ออกหากินบริเวณใกล้เคียงกับที่อาศัย ชอบลงมาเดินบนพื้นดิน เป็นลิงที่เชื่องและไม่ค่อยกลัวคน
ลิงวอกเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่อมีอายุ 3-4 ปี ระยะตั้งท้องนาน 5-7 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว
สถานภาพปัจจุบัน
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
สถานที่ชม
สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา